Health

  • คุณเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าหรือไม่ หากเป็นแล้วรักษาได้
    คุณเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าหรือไม่ หากเป็นแล้วรักษาได้

    โรคซึมเศร้า เป็นโรคทางจิตเวชประเภทหนึ่ง เกิดจากความผิดปกติของสารเคมีในสมอง ‘เซโรโทนิน (Serotonin)’ มีปริมาณลดลง ทำให้ผู้ป่วยมีอาการป่วยทั้งร่างกาย จิตใจ และความคิด รู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสุข มีแต่ความวิตกกังวล และหากปล่อยไว้ ผู้ป่วยอาจคิดสั้นฆ่าตัวตายได้

    สาเหตุหรือปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้น
    -ความเครียดสะสม
    -การสูญเสียครั้งใหญ่
    -สภาพจิตใจที่เกิดจากการเลี้ยงดู
    -ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างไม่ราบรื่น
    -ความเสี่ยงทางพันธุกรรม
    -เครียดสะสม ภาวะอันตรายทำลายสุขภาพ

    ความเครียด เป็นภาวะของความรู้สึก ความคิด หรืออารมณ์ที่เกิดจากการบีบคั้นกดดัน เมื่อมีภาวะความเครียดสะสมเป็นเวลานาน นอกจากจะทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอลงแล้ว ภาวะความเครียดอาจกลายเป็นภาวะซึมเศร้าหรือทำให้เราเป็นโรคซึมเศร้าได้ ซึ่งปัจจุบัน เป็นอาการที่น่าเป็นห่วงอย่างมาก ส่งผลให้มีอาการทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ และความคิด และกระทบต่อการดำเนินชีวิตในแต่ละวันอย่างมาก

    ทุกคนต้องเจอกับภาวะความเครียดอยู่แล้ว แต่ขึ้นอยู่กับว่า เราจะรับมือและจัดการความเครียดนี้ได้อย่างไร?

    หากเครียดมาก จะทำให้เสี่ยงเป็นหลายโรค เพราะความเครียดไม่ได้ส่งผลร้ายต่อจิตใจเพียงอย่างเดียว แต่ยังส่งผลต่อปัญหาสุขภาพกายอีกด้วย ซึ่งนี่คือ 5 อาการเตือนจากร่างกายที่บอกว่า คุณกำลัง “เครียด” เกินไปแล้ว

    1.น้ำหนัก ขึ้นลง อย่างรวดเร็ว
    ความเครียดมักไปกระตุ้นร่างกาย ให้หลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมาในปริมาณมาก ทำให้เกิดความหิวตลอดเวลา และบางครั้งความเครียดก็ทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนอะดรีนาลีน ทำให้กระบวนการเผาผลาญถูกเร่งให้ทำงานเร็วขึ้นกว่าปกติ

    2.ป่วยง่าย
    ความเครียดทำให้ร่างกาย หลั่งฮอร์โมน คอร์ติซอลในปริมาณมาก ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองต่อคอร์ติซอลน้อยลง จึงทำให้เกิดการติดเชื้อต่างๆ ได้ง่ายขึ้น

    3.ท้องอืด ลำไส้แปรปรวน
    หากมีความเครียดสะสมเป็นเวลานาน ร่างกายจะหลั่งน้ำย่อยในกระเพาะอาหารออกมามากกว่าปกติ จึงทำให้เกิดอาการท้องอืด ลำไส้แปรปรวน กรดไหลย้อน ได้

    4.ปวดศีรษะ
    การปวดหัวศีรษะจากความเครียด อาจมีอาการปวดตื้อๆ รอบหน้าผากและหนังศีรษะ

    5.นอนไม่หลับ
    ความเครียดทำให้เกิดภาวะนอนไม่หลับ เนื่องจากร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนหลายๆ ชนิด นอกจากนี้ ความวิตกในเรื่องที่เครียด ยิ่งทำให้นอนไม่หลับมาก หรือหลับก็หลับไม่สนิท ทำให้มีอาการอ่อนเพลีย หงุดหงิดและเจ็บป่วยง่าย

    อาการแบบไหนเสี่ยงโรคซึมเศร้า
    มีอารมณ์ซึมเศร้า
    อ่อนเพลีย ไร้เรี่ยวแรง
    รู้สึกตนเองไร้ค่า สิ้นหวัง
    เบื่ออาหารหรือเจริญอาหารมากกว่าปกติ
    นอนไม่หลับ หรือหลับมากไป
    คิดเรื่องการตาย คิดอยากตาย หรือทำร้ายตัวเอง
    ความสนใจในกิจกรรมต่างๆ แทบทั้งหมดลดลงอย่างมาก
    น้ำหนักลดลงหรือเพิ่มขึ้นมาก
    สมาธิลดลง ใจลอย ลังเลใจไปหมด
    กระวนกระวาย อยู่ไม่สุข หรือเชื่องช้าลง

    คุณเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าหรือไม่?

    หากมีอาการข้างต้น 5 อาการ หรือมากกว่า พบว่าตนเองมีอาการข้างต้นอย่างน้อย 2 สัปดาห์ โดยมีอาการอยู่เกือบตลอดเวลาแทบทุกวัน ไม่ใช่เป็นๆ หายๆ อาจมีความเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้า ควรปรึกษาพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย ปรึกษา และรักษาต่อไป

    โรคซึมเศร้า รักษาได้อย่างไร?

    สำหรับการรักษาผู้ป่วยโรคซึมเศร้า มีทั้งการรักษาโดยการใช้ยา การใช้จิตบำบัด การปรับมุมมองเปลี่ยนความคิด การปรึกษาจิตแพทย์ โดยวิธีการรักษาควรได้รับการประเมินโดยแพทย์เท่านั้น

    นอกจากนี้การให้กำลังใจจากครอบครัว คนใกล้ชิด ถือเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับผู้ป่วยโรคซึมเศร้า โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีอาการหนัก ต้องระวังเป็นอย่างมาก เพราะมีโอกาสคิดสั้นฆ่าตัวตายสูง หากมีเรื่องกระทบกระเทือนใจแม้เพียงนิดเดียว โดยจากสถิติพบว่า มากกว่าร้อยละ 60 ของผู้ที่ฆ่าตัวตายมีภาวะของโรคซึมเศร้าด้วย

    ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมสุขภาพจิต, คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี, กระทรวงสาธารณสุข

     

    ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพได้ที่  dbesoftware.com

Economy

  • แกะงบ 7-Eleven ร้านสะดวกซื้อรายใหญ่
    แกะงบ 7-Eleven ร้านสะดวกซื้อรายใหญ่

    แกะงบ 7-Eleven ร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ คนเข้าร้านเพิ่มขึ้นแต่ยอดขายต่อบิลลดลง

    7-Eleven นับเป็นร้านสะดวกซื้อที่ใกล้ชิดกับผู้คน ด้วยสาขาที่มากถึง 1.3 หมื่นสาขาทั่วประเทศ ทำให้ร้านสะดวกซื้อรายใหญ่มักจะสะท้อนกับกำลังซื้อรวมถึงทิศทางของเศรษฐกิจไทยได้ ทั้งนี้จากข้อมูลในปัจจุบันพบว่า 7-Eleven มีการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผลักดันให้ยอดผู้ใช้บริการต่อสาขาเพิ่มขึ้น ส่วนยอดขายต่อบิลปรับตัวลดลงเล็กน้อย

    โดยในรายงานงบการเงินไตรมาสที่ 3 ของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL รายงานว่า ธุรกิจร้านสะดวกซื้อมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการรวม 90,417 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.6 % จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ในไตรมาสนี้มียอดขายเฉลี่ยต่อร้านต่อวัน เท่ากับ 76,612 บาท และยอดขายเฉลี่ยของร้าน สาขาเดิมเพิ่มขึ้น 22.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมียอดซื้อต่อบิลโดยประมาณ 82 บาท ในขณะที่จำนวนลูกค้าต่อสาขาต่อวันเฉลี่ย 928 คน

    ทั้งนี้ลูกค้ามีจำนวนเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุมาจากการยกเลิกมาตรการต่างๆ ที่ควบคุมการแพร่ระบาด COVID-19 รวมถึงมีมาตรการกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งยังคงเป็นปัจจัยบวกที่สนับสนุนการฟื้นตัวของธุรกิจร้านสะดวกซื้อประกอบกับรายได้จากการขายสินค้าส่วนเพิ่มผ่านกลยุทธ์ O2O อาทิ 7-Eleven Delivery, All Online และ 24Shopping ซึ่งยังคงสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในภาวะปัจจุบันได้เป็นอย่างดี โดยมีสัดส่วนสูงกว่า 10% ของรายได้จากการขายสินค้ารวม ในไตรมาส 3 ปี 2565 สัดส่วนของรายได้จากการขาย 74.1% มาจากสินค้ากลุ่มอาหาร และ 25.9% มาจากสินค้าอุปโภค

    แกะงบ 7-Eleven ร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ คนเข้าร้านเพิ่มขึ้นแต่ยอดขายต่อบิลลดลง

    ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้จากการขายสินค้ากลุ่มอาหารเพิ่มขึ้น จากการเติบโตของยอดขายในทุกกลุ่มสินค้า เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ไตรมาส 3 ปี 2565 ธุรกิจร้านสะดวกซื้อมีกำไรขั้นต้นจำนวน 25,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.6% จากไตรมาสเดียวกัน ของปีก่อน

     

    โดยมีอัตราส่วนกำไรขั้นต้น 27.6% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3 ปี 2564 ที่อัตราส่วน 27.4% สาเหตุหลักมาจากการปรับกลยุทธ์ด้านสินค้าโดยยังคงเน้นเรื่องความต้องการและพฤติกรรมในการจับจ่ายใช้สอยของลูกค้าเป็นหลัก รวมถึงให้ความสำคัญต่อการบริหารอัตรากำไรขั้นต้นของสินค้า เพื่อให้สามารถดึงดูดลูกค้าและสามารถสร้างยอดขายและกำไรส่วนเพิ่มต่อธุรกิจภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว

    ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath.co.th

    สามารถอัพเดตข่าวสารเรื่องราวต่างๆได้ที่ : dbesoftware.com